โปสเตอร์พระ มกรา 64

มหัศจรรย์!!!

  บันทึกตำนานโดย ตรียัมปวาย

จากหนังสือ “พระสมเด็จฯ ตำราพิจารณาพระสมเด็จฯ เล่มแรกของประเทศไทย” 
           หน้า ๑๗๒ ท่านเจ้าคุณพระธรรมถาวรอธิบายว่าเหตุที่พระสมเด็จฯ จะขึ้นชื่อลือกิตติคุณ จนมีผู้นิยมเลื่อมใสกันเป็นอันมากนั้น ก็เนื่องด้วยเมื่อปีระกา (พ.ศ. ๒๔๑๖) หลังจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯ สิ้นแล้วได้หนึ่งปี ได้เกิดโรคระบาดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งเรียกว่า ‘ปีระกาป่วงใหญ่’ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ไปเข้าฝันชาวบางช้างว่า การแก้ไขป่วงครั้งนี้ ให้อาราธนาพระสมเด็จฯ สรงน้ำ ทำประสะน้ำมนต์ จัดดอกไม้ธูปเทียนบูชา แล้วดื่มน้ำมนต์นั้นก็จะหายจากโรคนี้ เรื่องนี้ได้แพร่หลายทั่วไปอย่างกว้างขวาง มีผู้พากันปฏิบัติตามก็ปรากฏผลหายจากโรคระบาดได้อย่างน่าอัศจรรย์ กิตติศัพท์นี้ได้โจทย์ขานแพร่ไปทั่วทุกหัวระแหง

************

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ 

 (ผิวน้ำมันตังอิ้ว)
แบบพิเศษ 1

1.ผิวน้ำมันตังอิ้ว

IMG_3971 resize

IMG_3972 resize

************

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ 

เนื้อปูนเปลือกหอย
แบบพิเศษ 2

2.เนื้อปูนเปลือกหอย

                  หน้า 390 ว่า คือ ” ผงตะไบของแผ่นทอง ซึ่งลงอักขระเลขยันต์และสูตรต่างๆ ด้วยพระยันต์ 108 ”แล้วนำมาผสมลงในเนื้อพระ จัดว่าเป็นอิทธิวัสดุ อีกทั้งเป็นสิ่งเพิ่มคุณค่าและความซึ้งของเนื้อขึ้นอีก

IMG_3686 (resize)

IMG_3687 (resize)

************

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ 

ปิดทอง
แบบพิเศษ 3

3.ลงรักปิดทอง

                    หน้า 406 กล่าวถึง  “แผ่นทองคำเปลว“ ที่ติดองค์พระค่อนข้างจะบริสุทธิ์ แม้อายุกว่าร้อยปี สีทองคำยังเหลืองอร่าม ดูงดงามมาก ถึงแม้ว่าจะมีรอยเหี่ยวย่นและรอยปริแตก สีก็ยังสดใสสวยงามมาก แต่ถ้าส่วนผสมของทองคำเปลวไม่บริสุทธิ์ผสมด้วยตะกั่วเมื่อเวลาผ่านไปก็จะหมองคล้ำลงจนเกือบดำเห็นเป็นประกายสีทองคำเล็กน้อยเท่านั้น

121629864_1521459718041045_960975706856312461_o 121318992_1521459741374376_2154497532891857256_o

************

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ 

ปิดทองลงกรุ
แบบ A-1

A1

พระสมเด็จ                 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ ปิดทองลงกรุ  A-1  
พระสมเด็จ1พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ ปิดทองลงกรุ  A-1   

****************************

     หน้า ๑๖๑ พระเทพญาณเวที เล่าตามที่ได้รับความรู้จาก พระธรรมถาวร ว่า : “เจ้าพระคุณสมเด็จฯ รับเป็นภาระปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ วัดใหม่อมตรส ขณะปฏิสังขรณ์นั้นเจ้าพระคุณสมเด็จฯมาจำวัดที่วัดใหม่อมตรส แล้วนำเอาพระสมเด็จจากวัดระฆังฯ มา ๔ บาตร ประดิษฐานไว้บนเพดานพระอุโบสถที่ปฏิสังขรณ์นั้น และในระหว่างนั้น เจ้ากรมท่าซ้ายได้ขอแม่พิมพ์พระสมเด็จฯ เพื่อจะเอาไปสร้างพระ บรรจุไว้ในพระเจดีย์วัดใหม่อมตรสนี้”

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ 

(ลุงพุฒิ)  ปิดทองลงกรุ 
แบบ A-2

A2

พระสมเด็จ4

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ (ลุงพุฒิ) ปิดทองลงกรุ  A-2 
พระสมเด็จ5พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ ลุงพุฒิ) ปิดทองลงกรุ  A-2

****************************

                หน้า ๑๔๕  เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) เนื้อชนิดนี้เท่าที่สืบทราบไว้ คือ พระอาจารย์ขวัญ กล่าวว่าได้ทราบจากพระธรรมถาวร อาจารย์ของท่านว่าเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้เคยสร้างพระสมเเด็จฯ เนื้อชนิดนี้เหมือนกัน แต่มีจำนวนน้อยมาก ทั้งนี้เพราะเป็นการสิ้นเปลืองผงใบลานมาก โดยปกติแล้วเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จะใช้ผงใบลานเผา ซึ่งเกิดจากการเผาแผ่นใบลานที่ท่านได้จารอักขระและสูตรทางพุทธมนต์เจือผสมกับเนื้อขาวธรรมดาเท่านั้น

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  

(อกวี) เนื้อผงใบลานเผา (สมเด็จดำ)   
แบบ B-1

B1

DSCF5248_สวย พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (สมเด็จดำ)  B-1
DSCF5249_สวยพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (สมเด็จดำ)  B-1

****************************

 พระสมเด็จดำ (ผงถ่านแม่พิมพ์)

แบบ B-1.1

B1.1

แม่พิมพ์ที่ชำรุดแตกหักนำไปเผาไฟ จนกลายเป็นถ่าน แล้วนำมาตำให้ละเอียดมาผสมกับผงวิเศษทั้ง ๕ มี (ผงปัตถมัง ผงอิธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช และผงพุทธคุณ) แล้วนำมาผสมกับข้าวสุก และมวลสารอื่นๆ โดยใช้น้ำอ้อยเคี่ยวเป็นตัวประสานเนื้อ เมื่อพระแห้งดี จะออกสีดำ หรือสีดำอมเทา ถ้าพระองค์ใดผสมผงใบราณลงไปด้วยก็จะเกิดคราบไขขึ้นตามซอก พระเนื้อผงถ่านนี้มีจำนวนการสร้างไม่มากนัก ทำตามจำนวนแม่พิมพ์ที่ชำรุด พระเนื้อนี้ให้คุณทางเมตตา มหาอำนาจ แคล้วคลาด โดยเฉพาะคงกระพัน

3

  พระสมเด็จดำ (ผงถ่านแม่พิมพ์) B-1.1 (ภาพประกอบ)

3_0

  พระสมเด็จดำ (ผงถ่านแม่พิมพ์) B-1.1

****************************

 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่

(อกกระบอก) เนื้อผงใบลานเผา (ดำ)
แบบ B-2

B2

IMG_5808  พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) B-2

IMG_5809

  พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) B-2

****************************

 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่

เนื้อผงใบลานเผา (ดำ)
แบบ B-2.1

B2.1

DSCF5246_สวย

  พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) B-2.1

DSCF5247_สวย

  พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) B-2.1

****************************

เนื้อผงใบลานเผา

สมเด็จดำ ทรายทอง   
แบบ B-3

B3

6

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ)  แร่ทรายทอง  B-3

3 หลัง

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) แร่ทรายทอง B-3 

****************************

           หน้า ๑๔๖ “หนังสือที่ท่านจารคืออักระเลขยันต์ทางพุทธาคม พอมากๆเข้าท่านก็หอบเอาใบลานที่จารเหล่านั้นมากองสุมไฟเสียคราวหนึ่งแล้วเก็บเอาขี้เถ้าใบลานเผานั้นไว้ ในตอนนั้นใครๆ เขาพากันว่าเจ้าพระคุณสมเด็จฯ บ้าเสียแล้ว แต่ท่านเก็บผงใบลานเผานั้นไว้บดผสมกับสิ่งอื่นๆ สร้างเป็นพระสมเด็จฯดำขึ้น และเจอผสมเนื้อขาวสร้าง พระสมเด็จฯ เนื้อขาว ขึ้นมากมาย แต่สมัยนั้นไม่ใคร่มีใครสนใจพระสมเด็จฯกันนัก เด็กที่มาช่วยตำผง ท่านก็แจกให้คนละองค์ พร้อมกับบอกว่า เอ้า! อ้ายหนู เอาพระไว้กันหมามันกัด”

 พระสมเด็จฯ 

เนื้อผงใบลานเผา (สมเด็จดำ)
พิมพ์กลักไม้ขีด (ขนาดหนา)  แบบ B-4

B4

8

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) กลักไม้ขีด B-4
8 side
เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) กลักไม้ขีด (ด้านข้าง หนากว่าปรกติ 2-3 เท่า)  B-4
8 back
พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงใบลานเผา (ดำ) กลักไม้ขีด B-4

     “พระสมเด็จฯ เนื้อผงใบลานเผาสีดำที่ท่านสร้างขึ้นนั้น โยมเล่าว่า พิมพ์ด้วยแม่พิมพ์หินมีดโกน พิมพ์ได้ครั้งละองค์ พิมพ์แล้วท่านก็ตากไว้ในกระด้ง พอแห้งดีแล้วท่านก็เก็บใส่ย่ามละว้าใหญ่ของท่าน แล้วเอาไว้แจกชาวบ้าน และที่เหลือไม่ทราบว่าท่านเอาไปไว้ที่ไหนหมด”

****************************

พระสมเด็จฯ 

สมเด็จขาว พิมพ์กลักไม้ขีด (ขนาดหนา)
เนื้อผงพุทธคุณ แบบ B-5

B5

9สมเด็จขาว เนื้อผงพุทธคุณ กลักไม้ขีด  B-5

9 side

เนื้อผงพุทธคุณ กลักไม้ขีด (ด้านข้าง หนากว่าปรกติ 2-3 เท่า)  B-5
9 back
เนื้อผงพุทธคุณ กลักไม้ขีด  B-5

****************************

ในหน้า 466  ในข้อ 12. เนื้อพระสีพิกุลแห้ง ( เมจกวรรณะ – Burnt siena white ) เป็นวรรณะที่กระเดียดมาทางน้ำตาลคล้ำอ่อน เจือด้วยวรรณะมอนวล จะมีผิวแป้งโรยพิมพ์นวลเป็นฝ้าบางๆ จับอยู่ภายนอก

 พระสมเด็จ

พิมพ์ใหญ่ เนื้อสีพิกุลแห้ง  
แบบ C-1

C1

4 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  ( เนื้อสีพิกุลแห้ง)  C-1 
4s พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  ( เนื้อสีพิกุลแห้ง)  C-1 

****************************

                   หน้า 420 กล่าวถึงเนื้อกระแจะจันทร์ ลักษณะโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับเนื้อเกสรดอกไม้และก็มิได้หมายถึงเป็นเนื้อที่เตรียมมาจากแป้งกระแจะจันทร์ แต่เป็นเนื้อที่ค่อนข้างละเอียดและกอปรด้วยอิทธิวัสดุวรรณะหม่นคล้ำผสมอยู่มาก ทำนองลักษณะของแป้งกระแจะจันทร์ซึ่งปรุงด้วยผงไม้หอมหลากหลายชนิดจึงมีวรรณะหม่นคล้ำกว่าแป้งธรรมดา

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ 

เนื้อกระแจะจันทร์ (หลังเรียบ)
แบบ D-1

D1

สมเด็จ พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระแจะจันทร์ (หลังเรียบ) D-1)
สมเด็จ หลัง
 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระแจะจันทร์ (หลังเรียบ) D-1 )

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ 

เนื้อกระแจะจันทร์ (หลังสังขยา)
แบบ D-2

D2

        หน้า 459 กล่าวถึง  “ริ้วรอยธรรมชาติ” เป็นรอยย่นของผิวเนื้อโดยทั่วไปตลอดด้านหลัง ริ้วรอยเหล่านี้ค่อนข้างละเอียดและตื้น องค์พระที่ลงรักมาแต่เดิม ในขณะที่เนื้อพระยังไม่แห้งสนิท ครั้นเมื่อเนื้อยุบตัวแห้งสนิทจึงเกิดปฏิกิริยาโดยทั่วไปของผิวเนื้อ เป็นแรงดึงในการยุบตัวนั้น แต่เนื้อรักที่ฉาบผิวเนื้อแน่นอยู่ใช้เวลานานกว่าในการที่จะแห้งสนิท ดังนั้นจึงเกิดแรงดึงขึ้นโดยทั่วไปตามผิวเนื้อ และเกิดริ้วรอยธรรมชาติดังกล่าวขึ้น

4

 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระแจะจันทร์ (หลังสังขยา D-2

4_0

พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อกระแจะจันทร์ (หลังสังขยา D-2 

****************************

 พระสมเด็จ

พิมพ์ใหญ่ เนื้อแตกลายงา
แบบ E-1

E1

                        หน้า 413 กล่าวถึง การแตกลายสังคโลก เกิดจากการยุบตัวแห้งสนิทของเนื้อแต่ประการเดียว เป็นปฎิกริยาอันเกิดจากความแกร่งตัวของปูนขาวในเนื้อ ซึ่งแต่ก่อนถึงกับแตกรานเสียหาย ครั้นเมื่อได้ผสมน้ำมันตังอิวลงไปจึงช่วยคงสภาพไว้ได้ แต่ยังปรากฏปฏิกิริยาหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อยคือการแตกสลายสังคโลกนี้ ส่วนมากจะเป็นประเภทเนื้อหนึกแกร่ง เพราะการยุบตัวของปูนของมีมาก ประเภทเนื้อหนึกแกร่งจะกลายเป็นสังคโลกเป็นตารางหรือเกล็ดขนาดย่อมๆ ลักษณะคล้ายตารางสี่เหลี่ยมร่องเลขาค่อนข้างลึก  การแตกลายสังคโลกคงปรากฏเฉพาะทางด้านหน้าเช่นเดียวกับการแตกลายงาเพราะเกิดจากปฏิกิริยาภายใน เนื่องจากการยุบตัวของเนื้อและสัณฐานลักษณะของด้านหน้าเช่นเดียวกัน

  • 30712234_838389386348085_841511129829081088_n

     พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  ( เนื้อแตกลายงา )  E-1
    31786446_1769561159769751_4216813996612780032_n พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  ( เนื้อแตกลายงา )  E-1

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ 

ทรายทอง  
แบบ F-1

F1

   พระสมเด็จ ผสมแร่ทอง ซึ่งในตำราพระสมเด็จฯ เขียนโดยตรียัมปวาย  ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันของผู้ทำการศึกษาพระเครื่องของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯในปัจจุบัน ได้บันทึกไว้ เมื่อ พ.ศ. 2495 กล่าวถึงส่วนผสมสำคัญของเนื้อพระสมเด็จที่ท่านเจ้าคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้ใช้เป็นส่วนผสมในปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่องฯ หน้า 390 ว่า คือ ” ผงตะไบของแผ่นทอง ซึ่งลงอักขระเลขยันต์และสูตรต่างๆ ด้วยพระยันต์ 108 ”แล้วนำมาผสมลงในเนื้อพระ จัดว่าเป็นอิทธิวัสดุ อีกทั้งเป็นสิ่งเพิ่มคุณค่าและความซึ้งของเนื้อขึ้นอีก พิมใหญ่

ด้านหน้าขององค์พระจะมีเนื้อแร่ทองกระจายอยู่ทั่ว F-1
พิมใหญ่ หลัง
ด้านหลังขององค์พระจะมีเนื้อแร่ทองกระจายอยู่ทั่ว F-1 

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม

ทรายทอง  
แบบ F-2

F2

และ ในหน้า 404  กล่าวถึงการใช้แว่นขยายส่องดูเนื้อพระสมเด็จ จะปรากฏเกล็ดทรายทองทอประกายสะท้อนแสงวาบวับ บางองค์จะปรากฏเป็นเกล็ดสัณฐานเขื่อง ประมาณ 1 ใน 4 ของหัวเข็มหมุดขนาดย่อม

ฐานแซม สวย

 ด้านหน้าขององค์พระจะมีเนื้อแร่ทองกระจายอยู่ทั่ว F-2

ฐานแซม หลังสวย

ด้านหลังขององค์พระจะมีเนื้อแร่ทองกระจายอยู่ทั่ว F-2

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ 

(อกวี) เนื้อปูนแกร่ง
แบบ G-1
G15
 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  (เนื้อปูนแกร่ง)  G-1)

หน้า 428 กล่าวถึง เนื้อที่กอปรด้วยมวลสารของปูนขาวมากที่สุดและมีความแกร่งจัดที่สุดด้วย ลักษณะของผิวเนื้อราบเรียบและหนาเป็นสภาพของผิวปูนขาวที่แข็งตัวจับกันแน่น เมื่อกลายจากของเหลวมาเป็นของเเข็ง ฉะนั้นจึงมีชื่อว่า “เนื้อปูนแกร่ง”

5 back

 ด้านหลังพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  (เนื้อปูนแกร่ง)  G-1

หน้า 429 เนื้อปูนแกร่งเป็นเนื้อที่มีความแกร่งจัดที่สุด ความหนึกแกร่งสมบูรณ์ การแตกลายงาอย่างจัดและตารางเกล็ดขาวสะอาด ความซึ้งเกิดจากวรรณะอันขาวสะอาดและเงาสว่างสดใส การแตกลายสังคโลกชัดลึก

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ 

(อกวี) เนื้อสีมะกอกสุก
แบบ G-2

G2

4

 พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  (สีมะกอกสุก)  G-2 

หน้า 466 กล่าวว่า สีมะกอกสุก (ศยาวรรณะ-Yellow ochre) เป็นวรรณะที่ค่อนข้างคล้ำสักเล็กน้อย อันเกิดจากวรรณะหม่นคล้ำของมวลสารประเภทอิทธิวัสดุ จัดว่าเป็นวรรณะของเนื้อที่มีความซึ้งจัด

3 back

 ด้านหลังพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่  (สีมะกอกสุก)  G-2 

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ 

เนื้อขนมตุ้บตั้บ (กรอบกระจก)
แบบ G-3

G3

               หน้า 426 กล่าวว่าเนื้อขนมตุ้บตั้บ ความหมายของนามเนื้อประเภทนี้ คงทำนองเดียวกับเนื้อกระยาสารท คือ หมายถึงเนื้อที่มีมวลสารค่อนข้างหยาบหรือคลุ้กเคล้ากันในลักษณะหยาบๆ ไม่สมัครสมานเข้ากันสนิท ทำให้เห็นลักษณะของเนื้อวัสดุหลายอย่างรวมกันอยู่เป็นหย่อมๆ ทำนองเดียวกันกับขนมตุ้บตั๊บซึ่งมีเนื้อหยาบเคล้าคละกัน ฉะนั้นจึงเรียกว่า “เนื้อขนมตุ้บตั้บ”

กรอบกระจก สวย

ความซึ้ง เป็นความซึ้งซึ่งเกิดจากกอนุภาควรรณะหม่นคล้ำของอิทธิวัสดุกับสารปูนขาวผสมเถ้าธูปวรรณะขาวขุ่นแกมเทาสวาทอ่อนคล้ายสีน้ำข้าวเจือเทาอ่อนรวมกันเป็นหย่อมๆ และลึกลงไปภายในเนื้อ และถ้าเป็นเนื้อแตกลายงาก็จะกลายเป็นความซึ้งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมักจะมีเมล็ดใบลานเผากระจายอยู่บางๆทั่วไป

กรอบกระจก สวย หลัง

 

****************************

พระสมเด็จ 

เนื้อขนมตุ้บตั้บ (เส้นใต้ตัก)
แบบ G-3.1

G3.1

ขนมตุ๊บตับ

พระสมเด็จฯ เนื้อขนมตุ้บตั้บ (เส้นใต้ตัก) แบบ G-3.1

ขนมตุ๊บตับ1

พระสมเด็จฯ เนื้อขนมตุ้บตั้บ (เส้นใต้ตัก) แบบ G-3.1

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม

เนื้อขนมตุ๊บตั๊บ
แบบ H-1

H1

7

พระสมเด็จฯ พิมพ์ฐานแซม  (เนื้อขนมตุ๊บตั๊บ)  H-1 

 ๕) ความฉ่ำ เนื่องจากผิวเนื้วอแกกร่งและราบเรียบ มักจะเกิดเงาสว่างตามธรมชาติจากการสัมผัสเสียดสีต่างๆ จึงเป็นความฉ่ำที่สดใสของผิวเนื่องจากเงาสง่าง และเกิดมิติที่สามของเนื้ออีกด้วย

7 back

พระสมเด็จฯพิมพ์ฐานแซม  (เนื้อขนมตุ๊บตั๊บ)  H-1 

****************************

พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม

เนื้อสีลาน
แบบ H-2

H2

2

พระสมเด็จฯ พิมพ์ฐานแซม  (เนื้อสีลาน)  H-2 

หน้า 465 กล่าวว่า เนื้อสีลาน (ปัณฑวรรณะ- aple yellow) เป็นวรรณะขาวอมเหลืองหม่นอ่อนๆ แก่กว่าวรรณะสีงาช้างเล็กน้อย หรือคล้ายสีใบลานมากที่สุด แต่ก็ยังอ่อนซีดกว่า

2 back
ด้านหลังพระสมเด็จฯ พิมพ์ฐานแซม  (เนื้อสีลาน)  H-2 

****************************

ตีโจทย์พระให้แตก ด้วยการใช้ประสบการณ์ และปัญญา
ก็อาจได้พระที่ใครๆว่าสูงเกินจะไขว่คว้า…มาเป็นเจ้าของได้ โดยไม่ต้องใช้เงินแบบเจ้าสัว
 ตาดี    มีศรัทธา  พระแท้จะมาโปรดถึงมือ 

 

****************************

โอนเงินเข้าบัญชี

โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์  

ชื่อบัญชี มูลนิธิโพชฌงค์ธรรมสถาน ธนาคารกรุงไทย สาขาบิ๊กซี สายไหม
เลขบัญชีเลขที่ 982-9-99832-0

แจ้งชื่อ และ ที่อยู่พร้อมส่งสำเนาใบฝากเงินธนาคารทาง
Line : @postchong.org (มี@ด้วย)
เพื่อที่มูลนิธิฯจะได้จัดส่งพระสมเด็จไปยังท่านภายใน  ๓ วัน 
หมายเหตุ : ค่าวัสดุภัณ์ พร้อมส่งทางไปรษณีย์ EMS 100 บาท หรือ มารับด้วยตนเอง ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานบริหารมูลนิธิฯ โทร. 02-8533818 หรือ 090-8892520

ช่องทางการติดต่อ

อ้างอิงจากหนังสือสมเด็จฯ ตำราพิจารณาพระสมเด็จฯ โดย ตรียัมปวาย หน้า ๑๔๕, ๑๔๖, ๑๖๐, ๑๖๑, ๑๗๒,๔๑๓, ๔๒๐, ๔๖๖

          ข้อมูลจากเวปไซด์ข้างล่างที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จวัดระฆัง  ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้ศึกษาเรื่องพระเครื่องของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เป็นดุลพินิจในการพิจารณาอีกทางหนึ่ง (ขอขอบคุณท่านเจ้าของเว็ปไซด์ และผู้เขียนมา ณ โอกาสนี้)

หมายเหตุ กรุณาศึกษาข้อมูลจากเวปไซด์ และค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จฯ และใช้ดุลพินิจส่วนตนในการพิจารณาก่อนตัดสินใจ

***************************

***************************

พระกริ่งปวเรศ

          ในหนังสือตำนานพุทธเจดีย์ว่า พระกริ่งที่สร้างขึ้นทุกองค์เป็นพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตทั้งสิ้น และความเชื่อที่ว่าพระไภษัชยคุรุนั้น มีอำนาจพุทธานุภาพทำให้ผู้ที่บูชาหายจากความเจ็บป่วยไข้และพ้นภัยจากอันตรายทั้งปวง

Slide28

พระกริ่งปวเรศ

มหาเศรษฐี สัมฤทธิ์เดช

แบบ A-1 
      เนื้อสัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์ (เนื้อเก้า) มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด มีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำดำสนิทคล้ายนิลดำ เรียกกันว่า “สัมฤทธิ์เนื้อกลับ” โบราณถือ เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ   มีอำนาจพุทธคุณด้านมหาอำนาจ โภคทรัพย์  เมตตามหานิยม แคล้วคลาดและป้องกันภัยอันตรายตลอดจนบำบัดโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิด

Slide1 Slide2 Slide3

 พระกริ่งปวเรศ

มหาเศรษฐี สัมฤทธิ์ผล 

แบบ A-2 
         สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง “สีแดง” หรือตรีโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ ๓ ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ  สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม

โปสเตอร์พระ (1)

Slide13 Slide14

พระกริ่งปวเรศ

บารมีแผ่ไพศาล  สัมฤทธิ์เดช

แบบ B-1 
         พุทธคุณอันล้ำเลิศของพระกริ่งปวเรศฯ จะเป็นที่กล่าวขานกันมากในด้านการรักษา โรค เพราะคำว่า “พระไภษัชครุ” นั้นแปลว่าผู้เป็นเลิศทางรักษาโรค มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระวนรัต (แดง) อาพาธเป็นโรคอหิวาต์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรม หลวงวชิรญาณวงศ์เสด็จไปทรงเยี่ยม และทรงนำพระกริ่งปวเรศฯ มาทำน้ำพระพุทธมนต์ ให้ฉันปรากฏว่าสมเด็จพระวนรัตมีอาการดีขึ้นๆ และหายเป็นปกติในที่สุดอาจด้วย มูลเหตุนี้เอง ทำให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งประทับอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเกิดความสนพระทัย
Slide31
บารมีแผ่ไพรศาล หน้าบารมีแผ่ไพรศาล ข้างบารมีแผ่ไพรศาล หลัง

พระกริ่งปวเรศ

บารมีแผ่ไพศาล  สัมฤทธิ์ผล

 แบบ B-2 
การสร้างพระกริ่งที่เป็นพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตขนาดเล็กขึ้นเพื่ออาศัยบารมีของพระไภษัชยคุรุนี้ ช่วยขจัดภยันตรายต่างๆและให้ผู้ที่พกพาติดตัวระหว่างเดินทางปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงจากที่พกติดตัว จึงเป็นมูลเหตุที่สำคัญในการนับถือพระกริ่งเป็นเสมือนเครื่องรางและนำติดตัว

Slide33

Slide48 Slide49 Slide50

พระกริ่งปวเรศ

สมบูรณ์พูนสุข  สัมฤทธิ์เดช

แบบ C-1
              “พระกริ่งปวเรศ เนื้อนวโลหะผิวกลับดำ เมื่อขัดเนื้อในจะเป็นสีจำปาเทศ และเมื่อทิ้งไว้ถูกกับอากาศจะกลับดำอีกครั้งหนึ่งในเวลาไม่นาน (เนื้อนวโลหะ ประกอบไปด้วย โลหะ 9 อย่างได้แก่ ทองคำ เงิน ทองแดง จ้าวน้ำเงิน(พลวง) เหล็กละลายตัว ชิน(ตะกั่ว+ดีบุก) ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี”

Slide34

Slide51 Slide52 Slide53

พระกริ่งปวเรศ

สมบูรณ์พูนสุข  สัมฤทธิ์ผล

แบบ C-2 
         สำหรับความเชื่อในเรื่อง เครื่องราง ของคนไทย มีมาแต่ครั้งโบราณ ดังจะเห็นได้ในวรรณกรรมที่มีการกล่าวถึงอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะ เครื่องราง ที่นักรบใช้ติดตัวในยามออกศึกสงคราม เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ห้าวหาญไม่เกรงกลัวข้าศึก โดยเชื่อกันว่า เครื่องราง ที่สร้างขึ้นด้วยวิชาไสยศาสตร์ชั้นสูง โดยพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมอันเข้มขลัง จะสามารถช่วยคุ้มครองป้องกันภัยรอบตัวได้เป็นอย่างดี

Slide35

Slide54 Slide55 Slide56

พระกริ่งปวเรศ

มหาบารมี สัมฤทธิ์เดช

แบบ D 
         ท่านอาจารย์ตรียัมปวาย ได้กล่าวถึงเรื่องพระกริ่งปวเรศไว้ดังนี้ “พระกริ่งปวเรศที่คนโบราณเขานิยมกันนั้น มีอยู่เนื้อเดียว คือเนื้อนวโลหะผิวกลับดำ เมื่อขัดเนื้อในจะเป็นสีจำปาเทศ และเมื่อทิ้งไว้ถูกกับอากาศจะกลับดำอีกครั้งหนึ่งในเวลาไม่นานSlide30
Slide32 Slide33 Slide34

พระกริ่งปวเรศ (น้อย)

เนื้อโลหะทอง (พิมพ์เล็ก)

แบบ E 
       สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 เคยมีดำรัสถึงเรื่องพระกริ่งปวเรศนี้ว่า ตำราการสร้างพระกริ่งและตำรามงคลโลหะ ที่มีมาแต่โบราณสืบค้นได้ถึงสมัยสมเด็จพระพนรัตนวัดป่าแก้ว

Slide32

Slide29 Slide30 Slide31

พระกริ่งชินบัญชร สมเด็จโต

พิมพ์ปวเรศ สัมฤทธิ์โชค

แบบ F-1
       เนื้อสัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์ (เนื้อห้า) ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ  มีอำนาจพุทธคุณด้านมหาอำนาจ โภคทรัพย์  เมตตามหานิยม แคล้วคลาดและป้องกันภัยอันตรายตลอดจนบำบัดโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิด
Slide37
ปวเรศ หน้าปวเรศ ข้าง_0ปวเรศ หลัง

พระกริ่งชินบัญชร สมเด็จโต

พิมพ์ขรัวโต สัมฤทธิ์โชค

แบบ F-2
           อาราธนาทำ น้ำมนต์ เมื่อเวลาเรารู้สึกดวงไม่ดี มีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย นำพระกริ่งปวเรศ หรือพระกริ่ง (องค์แทนพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า)  อาราธนาบารมีของพระองค์ท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่ม รด อาบ กินเพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากโรคภัยและกำจัดปัดเป่าอัปมงคล อันตราย ภัยพิบัติต่างๆ
Slide36
ขรัวโต หน้าขรัวโต ข้าง_0ขรัวโต หลัง
 โอนเงินเข้าบัญชีโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์  
ชื่อบัญชี มูลนิธิโพชฌงค์ธรรมสถาน ธนาคารกรุงไทย สาขาบิ๊กซี สายไหม
เลขบัญชีเลขที่ 982-9-99832-0

แจ้งชื่อ และ ที่อยู่พร้อมส่งสำเนาใบฝากเงินธนาคารทาง
Line : @postchong.org (มี@ด้วย)
เพื่อที่มูลนิธิฯจะได้จัดส่งพระกริ่งปวเรศไปยังท่านภายใน  3 วัน 
หมายเหตุ : ค่าวัสดุภัณ์ พร้อมจัดส่ง100 บาท หรือ มารับด้วยตนเอง ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานบริหารมูลนิธิฯ โทร. 02-8533818 หรือ 090-8892520
ช่องทางการติดต่อ

ตำนาน

พระกริ่งปวเรศ – วิกิพีเดีย

         เป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์โปรดให้พระยาเวียงในนฤบาลสร้างขึ้น มีพระพุทธรูปลักษณะ ปางหมอยา เป็นชื่อเรียกพระกริ่งที่สร้างโดยฝีมือของช่างสิบหมู่ หรือ ช่างหลวง ตั้งแต่ พ.ศ. 2382 – พ.ศ. 2434 ในอาณาจักรพระเครื่องรางที่นับถือว่ามีอานุภาพขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักนิยมพระเครื่องตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 สืบมาถึงปัจจุบัน มีราคาซื้อขายสูงที่สุดในประเภทพระโลหะ การสร้างมีพิธีพระพุทธาภิเษก และมีพิธีโหร พิธีพราหมณ์ และพิธีบวงสรวงอัญเชิญเทพเทวาพระเบื้องบนมาช่วยร่วมพิธีกรรมต่างๆ
          พระกริ่งปวเรศ เป็น พระกริ่งรุ่นแรก ที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังมีส่วนส่งเสริมให้เกิดความนิยมสร้างพระพุทธปฏิมาในลักษณะพระกริ่ง ในเวลาต่อมาอย่างแพร่หลายได้รับความนิยม ศรัทธา สูงสุดในวงการซื้อขายที่ถือเป็นสุดยอดพระกริ่ง การสร้างเป็นพิธีกรรมของราชสำนัก บุคคลทั่วๆไปย่อมไม่มีโอกาสได้พบเห็น จำนวนการสร้างเกือบทั้งหมดบรรจุกรุที่วัดพระแก้ว ไม่ทราบจำนวนการสร้างที่แน่ชัด จึงถือเป็นของหายาก และเป็นที่สุดของพระกริ่งปวเรศ
          พระกริ่งในสมัยรัตนโกสินทร์เริ่มสร้างที่มีความโดดเด่นมากในยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2382 จัดได้ว่าเป็นพระกริ่งยุคเริ่มบุกเบิกและมีพลังพุทธนุภาพแรงที่สุด พระกริ่งปวเรศเริ่มมีชื่อเสียงในวงแคบๆตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมาถึงยุคของรัชกาลที่ 5 พระกริ่งที่โด่งดังในอดีตล้วนแต่เป็นพระกริ่งที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ร่วมอธิษฐานจิต
        ศึกษาข้อมูลจากเวปไซด์ข้างล่างที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้ศึกษาเรื่องพระพระกริ่งปวเรศ สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เป็นดุลพินิจในการพิจารณาอีกทางหนึ่ง (ขอขอบคุณผู้เขียนมา ณ โอกาสนี้)
ข้อมูล : จากเว็บไซด์ 
หมายเหตุ กรุณาศึกษาข้อมูลจากเวปไซด์ และค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศ และใช้ดุลพินิจส่วนตนในการพิจารณาก่อนตัดสินใจ
บทความอื่นๆ

ปาฏิหาริย์ !! พระกริ่งปวเรศ


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


02-8533818 , 0908892520